Ads by Adyim

วันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

คาไซเร็กซ์ (Kasai Rex)

.....กลับมาพบกับบทความสัตว์ลึกลับอีกเช่นเคยครับ คราวนี้เอาของเก่ามากินใหม่อีกแล้วครับ บทความเรื่องนี้เคยทำไว้เมื่อ 5-6 ปีมาแล้ว สมัยยังอยู่ในเวบ Myth วันนี้ขอนำกลับมาปัดฝุ่นใหม่ครับ แต่ก็ยังคงเดิมไว้ซึ่งเนื้อหาและถ้อยคำ ที่ตอนแรกตั้งใจจะเปลี่ยนแปลงบ้างเพื่อความเหมาะสม แต่คิดอีกไม่เปลี่ยนดีกว่าครับ เพื่อความคลาสสิคของต้นฉบับเอง แหม ว่าเข้านั่นครับ ไม่เสียเวลาล่ะ เชิญผู้ชมติดตามอ่านได้เลยครับ

**********

.....ถ้าเอ่ยถึงชื่อ คาไซเร็กซ์ ขึ้นมา หลายคนอาจจะสงสัยว่ามันคือตัวอะไร หรือสงสัยว่ามันอาจจะเป็นไดโนเสาร์ประเภทเดียวกันกับ ทีเร็กซ์ หรือ ไทรันโนซอรัส เร็กซ์ (Tyrannosaurus Rex) ราชาไดโนเสาร์กินเนื้อแห่งโลกล้านปีอะไรนั่นหรือเปล่า ก็เห็นมีคำว่า เร็กซ์ๆ เหมือนกันอะไรประมาณนั้น ครับ บางทีคาไซเร็กซ์อาจจะเป็นไดโนเสาร์สายพันธุ์เดียวกัน หรือใกล้เคียงกันกับทีเร็กซ์ก็เป็นได้ ไม่ก็อาจจะเป็นเจ้าตัวทีเร็กซ์ เองเลย ที่ยังเหลือรอดชีวิตมาจากยุคจูราสสิคมาสู่ยุคปัจจุบันนี้ ถ้าอยากรู้ว่าคาไซ เร็กซ์คือตัวอะไร อันนี้เชิญติดตามได้เลยครับ


.....เรื่องราวของคาไซเร็กซ์นี้ปรากฏขึ้นมาเมื่อปี ค.ศ. 1932 ณ ทวีปแอฟริกาโน่นแน่ะครับ จากบันทึกของ จอห์น จอห์นสัน (John Johnson) เจ้าของไร่ยาสูบและสวนยางในแอฟริกา เรื่องก็มีอยู่ว่าวันหนึ่งนาย จอห์น ได้เดินทางเข้าป่าไปกับบรรดาคนงานทาสชาวแอฟริกาของเขา และได้ผ่านเข้าไปยังหุบเขาคาไซ (Kasai Valley) เพื่อสำรวจพื้นที่ ขณะที่กำลังเดินทางบุกป่าฝ่าดงกันอยู่นั้น ก็บังเอิญว่าตรงทางข้างหน้ามีแรดใหญ่ตัวหนึ่งกำลังเล็มหญ้าอยู่ ด้วยความที่รู้จักกับเจ้ารถถังยักษ์นี้เป็นอย่างดีว่ามันร้ายกาจแค่ไหน จอห์น และลูกน้องก็พยายามที่จะเดินเลี่ยงไปอีกทางโดยไม่ทำให้มันตื่น แต่ทันใดนั้นเบื้องหน้าก็ปรากฏร่างของสัตว์เลื้อยคลานขนาดยักษ์คล้ายกิ้งก่า ตัวหนึ่งพุ่งพรวดออกมาจากดงป่า แล้วเข้าจู่โจมเจ้ารถถังแห่งท้องทุ่งอย่างรวดเร็ว เจ้ารถถังยักษ์นี่ว่าตัวใหญ่แล้วแต่เจ้ากิ้งก่าตัวที่โจมตีนั้นมีขนาดใหญ่ กว่ามาก แรดเคราะห์ร้ายตัวนั้นโดนเจ้ากิ้งก่ายักษ์สังหารภายในเวลาไม่นานครับ และเริ่มฉีกกินเนื้อเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายต่อหน้าต่อตาลูกน้องของจอห์น

.....จากคำบอกเล่าถึงขนาดและรูปร่างของเจ้ากิ้งก่ายักษ์ตัวนี้ เขาประมาณว่ามันน่าจะมีขนาดความยาวจากหัวถึงหางราว 13 เมตร เรียกได้ว่ามีขนาดมหึมาก็คงจะไม่ผิดครับ สีแดงเรื่อปนดำตลอดลำตัว มีลายดำพาดเป็นสันทางยาวตลอดกลางหลัง และมีฟันแหลมคมอยู่เต็มปากไปหมด แต่มีขาที่เล็กมาก พอกินเนื้อเจ้ารถถังแห่งท้องทุ่งจนอิ่มหนำแล้วมันก็ค่อยๆ เดินอย่างสบายใจกลับเข้าไปยังดงป่าที่มันออกมาตอนแรก นี่ก็เลยกลายมาเป็นต้นตอการพบเห็นคาไซเร็กซ์เป็นครั้งแรกและก็ได้ตั้งชื่อ ขึ้นตามชื่อหุบเขาที่พบเห็นมัน และรายงานการพบเห็นครั้งต่อไปก็ตามมาอีกในเวลาต่อมา

.....แต่เรื่องราวและรายงานการพบเห็นคาไซเร็กซ์นั้นมีน้อยมากครับ เรียกว่าแทบจะนับชิ้นได้เลย และเรื่องราวการพบเห็นและการบรรยายรูปร่างลักษณะก็จะคล้ายกันเป็นส่วนมาก มีคนตั้งข้อสงสัยว่าบางทีนั้นคาไซเร็กซ์นี่อาจจะไม่ใช่ไทรันโนซอรัส เร็กซ์ แต่อาจจะเป็นไดโนเสาร์พันธุ์ทาร์โบซอรัส (Tarbosaurus) แทนต่างหาก ซึ่งทาร์โบซอรัสนี่ก็เป็นญาติห่างๆ ของทีเร็กซ์ ครับ เชื่อกันว่าเจ้ากิ้งก่ายักษ์ตัวนี้นั้นอาจจะอาศัยอยู่ลึกเข้าไปในเขตป่าลึกของประเทศคองโก โน่นแน่ะครับ ซึ่งที่มันออกมาปรากฏตัวยังบริเวณหุบเขาคาไซนั้น อาจจะเป็นเพราะออกมาหาอาหารก็เป็นได้
คาไซ เร็กซ์ ไดโนเสาร์หลงยุค ??

.....มาว่ากันที่ขนาดบ้าง ทาร์โบซอรัส นี่ตัวจะโตกว่าไทรันโนซอรัสนะครับ โดยเปรียบเทียบกันจากขนาดซากฟอสซิลของ มัน อย่างน้อยๆ ทาร์โบซอรัสนี่ก็ตัวเท่ารถเมล์หรือรถบัสเลยทีเดียว และแน่นอนครับเรื่อง “ความแข็งแรง” ย่อมไม่เป็นรองไทรันโนซอรัสด้วยเหมือนกัน ดูจากข้อวิเคราะห์และข้อสังเกตจากคำบอกเล่ารูปร่างและลักษณะของมันนั้น เลยเชื่อกันว่าเจ้ากิ้งก่ายักษ์นี่อาจจะไม่ใช่ ไทรัน แต่อาจจะเป็น ทาร์โบ ค่อนข้างแน่นอน (ถ้ามันมีอยู่จริง) จากเหตุผลก็คือ ประการแรก “ทีเร็กซ์นั้นไม่ใช่ไดโนเสาร์นักล่า” ครับ (ตรงนี้คิดว่าบางคนคงพอจะผ่านตากันมาบ้างแล้วกับสารคดีที่ทางช่องเคเบิลสารคดีดิสคัฟเวอร์รี่ (Discovery Channel) ได้เคยนำมาฉายเรื่องเกี่ยวกับที่ว่าจริงๆ แล้ว ทีเร็กซ์นั้นไม่ใช่ไดโนเสาร์นักล่าเหมือนอย่างในหนังจูราสสิค พาร์ค แต่อย่างใด แต่เป็นไดโนเสาร์ประเภทกินซากหรือแย่งซากที่ตายแล้วมาจากไดโนเสาร์นักล่า ประเภทอื่นมากกว่า) หรืออย่างน้อยก็ไม่ใช่นักล่าที่บุกเข้าจู่โจมศัตรูหรือเหยื่อด้วยความรวด เร็วแบบไดโนเสาร์นักล่าทั้งหลายน่ะครับ

.....โดยวิเคราะห์จากคำบอกเล่าของคณะของ จอห์น ที่บรรยายถึงการจู่โจมแรดตัวนั้น และสาเหตุสำคัญอีกประการหนึ่งที่เป็นตัวบอกว่ามันไม่ได้อาศัยความรวดเร็วใน การโจมตีก็คือ “กระดูกต้นขาของมันที่มีความแข็งแรงเพียง 9 ยูนิต” ซึ่งเมื่อเทียบกับช้างแอฟริกันตัวเมียที่มีความแข็งแรงของกระดูกต้นขาที่ 6-14 ยูนิต(Unit) แล้ว นับว่ายังห่างชั้นกันอีกเยอะ เรียกว่าเอา ทีเร็กซ์ มาไล่กวดช้างตัวเมียก็ไม่ทัน ว่ากันยังงั้นเลย อ้อ! เค้าใช้วิธีทดลองที่เรียกว่า Strength Indicator ในการเปรียบเทียบนี้โดยอาศัยข้อมูลจากซากฟอสซิลเป็นตัวเทียบน่ะครับ และแน่นอนครับด้วยความแข็งแรงของกระดูกต้นขาที่น้อยเพียงแค่นี้นั้น การที่จะล่าสัตว์หรือไดโนเสาร์ตัวอื่นด้วยการใช้ความเร็วไล่กวดหรือจู่โจม แบบสายฟ้าแล่บ (Surprising Attack) ให้ประสบผลสำเร็จนั้นย่อมยากเอาการอยู่ครับ ก็เลยเชื่อกันว่าเจ้าคาไซเร็กซ์นั้น อาจจะเป็นทาร์โบซอรัสไดโนเสาร์นักล่าตัวจริงมากว่า หรือไม่ก็คือ ทีเร็กซ์ ที่หลงเหลือมาจากยุคจูราสสิคนั่นเองครับ

*********

จบแล้วครับสำหรับ คาไซเร็กซ์ ไดโนเสาร์หลงยุค อ่านแล้วเป็นยังไง ติ-ชมได้นะครับ

9 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เหลือเชื่อเกินไป.. ที่ไดโนเสาร์ที่อาศัยอยู่บนบกจะรอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ หรือไม่งั้นถ้ารอดมาได้ก็คงต้องกลายพันธุ์จนกลายเป็นสัตว์ชนิดอื่นไปแล้วละ..


ปล.อยากไปเห็นสถานที่จริงแฮะ น่าจะมีภาพให้ดู..

Unknown กล่าวว่า...

จริงแล้วมันอาจจะเป็นแค่จระเข้ตัวใหญ่ ก็เป็นได้ครับ คนที่เอามาเล่าต่อก็มักจะแต่งเสริมเติมเรื่องราวให้มันดูเกินจริงออกไป

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

น่าจะเป็นจระเข้นะว่ามั้ย

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เหลือเชื่อนะปัญญาส่งเสริมให้เกินความน่าจะเป็นจริง

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

บอกเวลาทำไมอะอยากรู้

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

มันเป็นไปได้ยากนะครับ แต่ถ้ามีจริงก็อยากจะเจอสักครั้ง

Unknown กล่าวว่า...

ถ้าเป็นจริง คงไม่ใช่ทีเร็กซ์หรือทาร์โบซอรัสหรอกครับ เพราะ 2 ชนิดนี้ไม่ได้อยู่ในแอฟริกา แต่น่าจะเป็น คาร์คาโรดอนโทซอรัสมากกว่า

onyx beetlezilla กล่าวว่า...

โอกาสที่จะเป็นไดโนเสาร์ที่ยังหลงเหลืออยู่มันยากมากเพราะว่าไดโนเสาร์ขนาดใหญ่พวกนี้มันจำเป็นต้องกินเนื้อในปริมาณเยอะเหมือนกับมนุษย์เราเอาจริงแม้แต่ไดโนเสาร์กินพืชก็ต้องกินพืชเยอะและการที่มันควรจะหายไปตั้งแต่ 65 ล้านปีก่อนเนี่ยมันก็ไม่น่าใช่เรื่องแปลกเลยเพราะว่ายุคนั้นน่ะคือหลังจากที่อุกกาบาตพุ่งชนโลกปุ๊บไม่มีแสงแดดพืชก็ตายไดโนเสาร์กินพืชก็ตายไดโนเสาร์กินเนื้อก็ค่อยๆทะยานตายเป็นระดับทอดๆแบบห่วงโซ่อาหาร

onyx beetlezilla กล่าวว่า...

ถ้าจะบอกว่าคาไซเร็กซ์นั้นมีตัวตนอยู่จริงมันก็ยากมากเพราะตลอดช่วงเวลาที่มันยังมีชีวิตอยู่เนี่ยมันจะไปเอาเนื้อหรือกินอะไรหรือทำอะไรได้ยังไงในเมื่ออุณหภูมิของโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันตลอดเวลา และ ยิ่งในยุคน้ำแข็งนี่ก็ไม่ต้องบอกเลยว่ามันจะหนาวจนฆ่าไดโนเสาร์ให้ตายได้สบายๆ

แสดงความคิดเห็น

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...