Ads by Adyim

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ lake monster แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ lake monster แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2554

เซลม่า : สัตว์ประหลาดจากนอร์เวย์

นักตกปลาสองคนเมื่อปี ค.ศ.1970 ได้เผชิญหน้ากับเซลม่า 
     สวัสดีครับ กลับมาพบเรื่องราวสาระน่ารู้บ้างไม่น่ารู้บ้าง คละเคล้ากันไป ตามแต่จะมีนำมาเสนอมาให้ท่านผู้อ่านได้อ่านกัน อัพเดตคราวนี้ ขอนำเรื่องราวของสัตว์ลึกลับตัวหนึ่ง ของเก่ามาเล่าใหม่ครับ ผ่านการกลั่นกรองอีกเล็กน้อยตามระเบียบ เพื่อให้เรื่องกระชับขึ้น ไม่ใส่น้ำเหมือนตอนเขียนไว้ทีแรก ตามเคยครับ เรื่องนี้เคยนำไปลงไว้ในเวบ Myth เมื่อนานแสนนานมาแล้ว ประมาณปี พ.ศ.2547 น่าจะได้มั้งครับ ถ้าคุ้นๆ ตาก็อย่าเพิ่งแปลกใจครับ เรื่องเดียวคนเรียบเรียงคนเดียวกันนั่นเอง เอาล่ะ ไม่กล่าวมากกครับ พร้อมแล้วก็ไปรับชมกันเลย

**********************
     จากเรื่องที่แล้วพาขึ้นเขาเข้าป่าไป มาเรื่องนี้ลองเปลี่ยนบรรยากาศกันดูบ้างดีกว่าครับ ผมจะพาท่านเลาะเลี้ยวไปแถวๆ ทะเลสาบเซลจอร์ด (Lake Seljordsvatnet) ประเทศนอร์เวย์ กันดูบ้าง ที่ทะเลสาปแห่งนี้ก็มีเรื่องเล่าขานหรือรายงานการพบเห็นของสัตว์ประหลาดอยู่ ด้วยเหมือนกัน นามของมันนั้นหรือคือ เซลม่า (Selma) นั่นเองครับ ก็คงไม่โด่งดังเท่ากับเนสซี่จากสก็อตแลนด์หรือโอโกโปโกจากแคนาดา แต่ก็พอเป็นที่รู้จักกันอยู่บ้างครับ

วันศุกร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2554

โมเคลลี มเบมเบ้ (Mokele Mbembe) สัตว์ผู้หยุดสายน้ำ

......เมื่อวันก่อนได้มีโอกาสชมสารคดีทางช่อง National Geographic ครับ เป็นซีรี่ยส์ Beast Hunterว่าด้วยเรื่องของการตามล่าสัตว์ในตำนานที่เล่าขานกันทั่วโลก ตอนที่รับชมนั้นเป็นเรื่องของการตามหาตัวของสัตว์ลึกลับที่ประเทศคองโกครับ ชื่อของมันก็คือ โมเคลเล มเบมเบ้ (Mokele Mbembe) ครับ ออกเสียงยากเล็กน้อย เลยนึกถึงเรื่องบทความเจ้าสัตว์ตัวนี้ ที่แต่ก่อนเคยทำไว้ลงที่เวบ Myth เมื่อนานมาแล้วครับ นำมาลงไว้อีกครั้งเผื่อจะมีผู้ที่สนใจอ่านอีกนะครับ ในส่วนของข้อมูลนั้นได้ทำการแก้ไขให้กระชับขึ้น เพราะกลับมาอ่านอีกที แต่ก่อนเขียนใส่น้ำไปซะเยอะ เลยต้องปรุงใหม่ซะหน่อยและก็เพิ่มข่าวล่าสุดที่มีการกล่าวถึงเจ้าโมเคลลีนี้ด้วยเล็กน้อยครับ ว่าแล้วก็เชิญรับชมกันได้ตามอัธยาศัยเลยครับ
******
จากที่เคยลงในเวบ Myth ครับ

…..คราวนี้จะพาไปติดตามเรื่องของสัตว์ประหลาดชนิดหนึ่งหรือสายพันธุ์หนึ่ง ซึ่งเป็นสัตว์ลึกลับที่ยังไม่ปรากฏหลักฐานมีอยู่อย่างเป็นชิ้นเป็นอัน มีแต่คำบอกเล่าจากปากของพยานที่อ้างว่าพบเห็นเท่านั้น เจ้าสัตว์ลึกลับนี้ก็คือ "โมเคลเล มเบมเบ้ " ภาษาคองโกนั้นความหมายว่า "ผู้หยุดสายน้ำ"ครับ

วันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2553

โอโกโปโก (Ogopogo)

.....อีกหนึ่งสัตว์ประหลาดแห่งทะเลสาบที่เป็นที่รู้จักกันในบรรดาผู้หลงไหลในเรื่องลึกลับแล้ว นอกจากเนสซี่ ก็มี โอโกโปโก สัตว์ประหลาดจากทะเลสาบโอคานากัน (Okanagan Lake) ในประเทศแคนาดา นี่แหละครับ ที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย สำหรับการพบเห็น โอโกโปโก ที่มีการบันทึกรายงานอย่างเป็นทางการนี่เริ่มขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 18 เป็นต้นมาครับ จนกระทั่งมีชื่อเสียงโด่งดังมากขึ้นก็ตอนต้นศตวรรษที่ 19 และได้มีการบันทึกภาพที่อาจจะเป็นเจ้าสัตว์นี้ได้เมื่อปี ค..1968 ครับ และได้มีการบันทึกเป็นวิดิโอเอาไว้ได้เมื่อปี 1989 ดย เคน แชปลิ (Ken Chaplin) ขณะที่โอโกโปโกกำลังว่ายน้ำอยู่ แต่มีคนได้ตั้งข้อสังเกตว่าวิดิโอนี้เหมือนตัวบีเวอร์กำลังว่ายน้ำเสียมากกว่า หลังจากนั้นก็ได้มีการบันทึกภาพของเจ้าโอโกโปโก ตีพิมพ์ออกมาอีกเรื่อยๆ แต่ส่วนใหญ่ก็จะไม่ชัดเจน หรือเป็นความเข้าใจผิดขององค์ประกอบภาพก็มีอยู่เยอะครับ
......สถานที่อยู่ของโอโกโปโกนั้น ก็ไม่ใช่แคบๆ ครับ โดยขนาดของทะเลสาบโอคานากันนั้นมีความยาวประมาณ 135 กิโลเมตร กว้างประมาณ 4-5 กิโลเมตร และส่วนที่ลึกที่สุดอยู่ที่ราว 230 เมตร
ด้วยขนาดอันใหญ่แบบนี้ การที่จะมีสัตว์ประหลาดหลบซ่อนอยู่ซักตัว ก็ไม่น่าจะแปลกละมังครับ สำหรับรูปร่างลักษณะของเจ้าสัตว์ตัวนี้ได้มีการบันทึกเอาไว้ว่า มีขนาดประมาณ 12-14 เมตร ผิวหนังสีดำ หัวเหมือนม้า ลำตัวยาวเหมือนงู มีหนอกและหางคล้ายกับม้า ดูจากรูปได้เลยครับ ซึ่งลักษณะแบบนี้ก็ดันคล้ายเข้ากับไดโนเสาร์พันธุ์ บาสิโลซอรัส (Basilosaurus) ชื่อของเจ้าโอโกโปโก มีความหมายว่า สัตว์ศักดิ์สิทธิ์แห่งสายน้ำ น่าเกรงขามกันเลยทีเดียวครับ

.....ในปี ค..1959 ขณะที่คู่รักสองคู่กำลังขับเรืออยู่ในทะเลสาบ ได้ปรากฏร่างของสัตว์ประหลาดโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ ห่างจากทั้งคู่เพียงไม่กี่เมตร โดยเจ้าสัตว์ประหลาดนี้ได้จ้องมองเรืออยู่สักพักแล้วมันก็ดำน้ำลงไปอย่างเงียบๆ นับได้ว่าเป็นการพบโอโกโปโกแบบระยะใกล้ที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกเอาไว้ได้ ในปี ค..1964 ก็ได้ตีพิมพ์ภาพจาก เอริค พารามิเตอร์ (Eric Parameter) ซึ่งกล่าวว่าเป็นภาพของโอโกโปโกที่กำลังว่ายน้ำอยู่ และรายงานการพบเห็นก็ได้มีการตีพิมพ์ออกมาเรื่อยๆ นับได้หลายร้อยชิ้นจนกระทั่งปัจจุบันนี้นั่นแหละครับ
......โอโกโปโกมีอยู่จริงหรือไม่ นี่เป็นอีกปริศนาหนึ่งที่ปัจจุบันนี้เรายังไม่ได้รับคำตอบที่แน่ชัด ว่าสัตว์ประหลาดตัวนี้มีอยู่จริงหรือไม่ หรืออย่างน้อยก็ยังไม่มีผลพิสูจน์ที่ชัดเจนว่ามันไม่มีอยู่จริง นักวิทยาศาสตร์และนักวิชาการที่ได้ทำการศึกษาเรื่องนี้ ได้ให้คำตอบสำหรับเรื่องนี้ว่า บางทีโอโกโปโกนั้น อาจจะเป็นเพียงแค่ความผิดพลาดจากการมองเห็นสิ่งที่เคลื่อนไหวได้ในน้ำ ไม่ว่าจะเป็น ตัวบีเวอร์ ปลาสเตอร์เจี้ยน คลื่นทะเลสาบ ขอนไม้ หรือกระทั่งวัตถุบางชนิดที่ลอยมาตามน้ำ ซึ่งระยะทางจากการมองสิ่งเหล่านี้ อาจจจะทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นสัตว์ประหลาดกำลังว่ายน้ำอยู่ก็เป็นได้

วันพฤหัสบดีที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เนสซี่ : สัตว์ประหลาดแห่งล็อคเนส (The Lochness Monster) ตอนที่ 2

....การพบเห็นอย่างเป็นทางการครั้งแรกของเจ้าเนสซี่คงต้องย้อนกลับไปเมื่อ เดือนกรกฏาคม ปี ค..1933 เมื่อ จอร์จ สไปเซอร์ (George Spicer) และภรรยา ได้ขับรถไปตามทะเลสาบล็อคเนสในยามเช้าและได้พบเข้ากับสัตว์ขนาดใหญ่ที่ทั้งคู่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน เจ้าสัตว์ดังกล่าวกำลังเดินข้ามถนน เพื่อที่จะข้ามไปยังทะเลสาบ จอร์จได้บรรยาย ถึงลักษณะของสัตว์ประหลาดตัวนี้ว่า มันคลานสี่ขา ลำคอยาวเรียว มีความสูงประมาณ 1 เมตร ยาวประมาณ 8-9 เมตร เหมือนมังกรตัวยาวๆ หรือสัตว์ในยุคไดโนเสาร์ หลังจากการพบเห็นครั้งแรกที่มีการรายงานอย่างเป็นทางการ การพบเห็นครั้งต่อมาก็เกิดขึ้นไม่นานหลังจากนั้นโดยในเดือนสิงหาคม 1933 อาเธอร์ แกรนท์ (Arthur Grant) ได้อ้างว่าพบเจ้าสัตว์ประหลาดนี้เช่นกัน โดยพบเจอมันบนบกหลังจากเขาผ่านไปตามทะเลสาบ หลังจากนั้นไม่นาน ในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน ได้มีการตีพิมพ์ภาพที่อ้างว่าเป็นเจ้าอสูรกายตัวนี้เป็นครั้งแรก จากฝีมือขอฮิวจ์ เกรย์ (Hugh Gray) หรือภาพทางซ้ายมือนั้นแหละครับ ที่เป็นภาพของบางสิ่งที่มีขนาดลำตัวยาวกำลังว่ายน้ำอยู่
.....แต่ภาพถ่ายเนสซี่ที่โด่งดังมากที่สุด และได้รู้จักกันไปทั่วโลกนั้น ก็ได้ถูกตีพิมพ์ในเวลาต่อมาไม่นานในปี ค
..1934 จากโรเบิร์ต เคน
เน็ธ วิลสัน (Dr.Wilson) และใช้ชื่อว่า ภาพของศัลยแพทย์ (Surgeon’s photograph) โดยเป็นภาพของสัตว์ชนิดหนึ่งที่มีลำคอยาวโผล่พ้นน้ำมา โดยภาพนี้แสดงถึงโครงสร้างของหัวและบริเวณลำตัวได้อย่างชัดเจน นับเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่ทำให้ผู้คนเชื่อในเนสซี่มากยึ่งขึ้นว่ามันมีอยู่จริง และได้มีการตั้งทีมค้นหาขึ้นมากมาย เพื่อความหาตัวเนสซี่ ซึ่งภาพนี้เป็นภาพที่ถ่ายได้จาก 2 ใน 5 ภาพ โดยกล่าวกันว่าเป็น ภาพถ่ายของเนสซี่ที่ถ่ายได้ชัดเจนที่สุดเท่าที่เคยมีการตีพิมพ์กันมาเลยทีเดียวในยุคสมัยนั้น......แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า ในปี ค..1994 นั้นได้มีการพิสูจน์แล้วว่าภาพดังกล่าวเป็นของปลอมขึ้นเท่านั้น และเจ้าของภาพและเพื่อน ก็ได้ออกมายอมรับว่าได้ทำภาพดังกล่าวขึ้นมาจริง ด้วยความนึกสนุกเท่านั้น แต่ไม่นึกว่าจะลุกลามไปขนาดนี้ ก็เลยมีการสาบานกันเอาไว้ว่าจะปกปิดเป็นความลับ แล้วถ้าใครเสียชีวิตเป็นคนสุดท้ายก็ให้สารภาพเรื่องนี้ออกมา
.....ภาพนี้ทำไม่ยากครับ โดยส่วนประกอบ
มีเพียงเรือดำน้ำขนาดเล็กและก็หัวของสัตว์ประหลาดจำลองเท่านั้น การถ่ายทำก็ไม่ยากอะไร เพียงแค่เอาหัวสัตว์ประหลาดปลอมมาติดไว้กับเรือดำน้ำ แล้วถ่ายตอนที่มันแล่นอยู่ก็เท่านั้นเองครับ
.....แต่ก่อนที่จะมีการเปิดเผยภาพของศัลยแพทย์นี้ออกมา ก็ได้มีผู้ที่พยายามพิสูจน์ว่าภาพดังกล่าวเป็นของจริงหรือไม่ โดยวิเคราะห์จาก วงน้ำกระเพื่อมรอบตัวเนสซี่ และได้ให้ข้อสังเกตว่า วงน้ำที่กระจายออกนั้นมีขนาดเล็กเกินไป และไม่สัมพันธ์กับขนาดของเนสซี่ที่ว่าใหญ่กว่า 10 เมตรกันเลยทีเดียว ขนาดวงกระเพื่อมที่ปรากฏอยู่ในภาพนั้น อาจจะมีขนาดไม่ถึงเมตร ซึ่งบ้างก็ว่าภาพนี้เป็นภาพของช้างที่กำลังว่ายน้ำและชูงวงขึ้นเหนือน้ำ หรือไม่ก็เป็นภาพของนากที่กำลังดำน้ำและชูหางขึ้นเหนือน้ำเท่านั้นเอง ติดตามต่อตอนที่ 3 นะครับ

เนสซี่ : สัตว์ประหลาดแห่งล็อคเนส (The Lochness Monster) ตอนที่ 1

......สัตว์ประหลาดแห่งทะเลสาบล็อคเนสหรือที่รู้จักกันในชื่อของ “เนสซี่” นับได้ว่าเป็นสัตว์ประหลาดในตำนานตัวหนึ่งที่มีคนรู้จักอยู่มากมาย ซึ่งเนสซี่นั้นมีถิ่นฐานอาศัยอยู่ในทะเลสาบล็อคเนส ประเทศสก็อตแลนด์ โดยมีรายงานการถูกพบเห็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1933 และได้ถูกขนานนามว่า “เนสซี่” ก็เมื่อปี ค.ศ. 1950 เป็นต้นมา และจากสถิติรายงานการพบเห็นเนสซี่ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนี้นับได้เป็นพันๆ ชิ้น ทั้งจากผู้คนในท้องถิ่นเอง หรือนักท่องเที่ยวที่มาเยือนทะเลสาบเองก็ตาม



.....ปริศนาที่ว่าเนสซี่นั้น “มีตัวตันอยู่จริงหรือไม่” นั้น ปัญหานี้ดูจะค้างคาใจแก่เหล่าผู้คนมานานหลายสิบปี ซึ่งก็มีทั้งผู้ที่เชื่อและไม่เชื่อว่าเนสซี่นั้นมีอยู่จริงในทะเลสาบแห่งนี้ เราลองมาพิจารณาถึงสภาพทางภูมิศาสตร์ของทะเลสาบแห่งนี้เป็นอันดับแรกก็แล้วกันครับ

.....ล็อคเนสนั้นเป็นทะเลสาบที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่สองของประเทศสก็อตแลนด์ มีพื้นที่ผิวน้ำประมาณ 52 ตารางกิโลเมตร ยาวประมาณ 37 กิโลเมตร และ 15.8 เมตรที่เหนือระดับน้ำทะเล ส่วนที่ลึกที่สุดประมาณ 230 เมตร น้ำเป็นสีดำสนิท ก้นทะเลสาบประกอบไปด้วย ขี้เลนและโคลนซึ่งเป็นสิ่งเหมาะกับเรื่องการบดบังทรรศนะวิสัยเป็นอย่างดี รอบฝั่งทั้งสองด้วยถูกล้อมไปด้วยปราการภูเขาตลอดแนว ซึ่งเต็มไปด้วยช่องถ้ำคูหาใหญ่น้อยมากมาย ด้วยลักษณะภูมิประเทศและพื้นที่อันกว้างใหญ่เช่นนี้ จึงไม่น่าแปลกเท่าไหร่ถ้าจะมีตำนานเรื่องเล่าเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดคอยาวขนาดยักษ์ที่อาศัยอยู่ในทะเลสาบแห่งนี้ ติดตามต่อตอนที่ 2 นะครับ
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...