.....อีกหนึ่งสัตว์ประหลาดแห่งทะเลสาบที่เป็นที่รู้จักกันในบรรดาผู้หลงไหลในเรื่องลึกลับแล้ว นอกจากเนสซี่ ก็มี โอโกโปโก สัตว์ประหลาดจากทะเลสาบโอคานากัน (Okanagan Lake) ในประเทศแคนาดา นี่แหละครับ ที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย สำหรับการพบเห็น โอโกโปโก ที่มีการบันทึกรายงานอย่างเป็นทางการนี่เริ่มขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 18 เป็นต้นมาครับ จนกระทั่งมีชื่อเสียงโด่งดังมากขึ้นก็ตอนต้นศตวรรษที่ 19 และได้มีการบันทึกภาพที่อาจจะเป็นเจ้าสัตว์นี้ได้เมื่อปี ค.ศ.1968 ครับ และได้มีการบันทึกเป็นวิดิโอเอาไว้ได้เมื่อปี 1989 โดย เคน แชปลิน (Ken Chaplin) ขณะที่โอโกโปโกกำลังว่ายน้ำอยู่ แต่มีคนได้ตั้งข้อสังเกตว่าวิดิโอนี้เหมือนตัวบีเวอร์กำลังว่ายน้ำเสียมากกว่า หลังจากนั้นก็ได้มีการบันทึกภาพของเจ้าโอโกโปโก ตีพิมพ์ออกมาอีกเรื่อยๆ แต่ส่วนใหญ่ก็จะไม่ชัดเจน หรือเป็นความเข้าใจผิดขององค์ประกอบภาพก็มีอยู่เยอะครับ
......สถานที่อยู่ของโอโกโปโกนั้น ก็ไม่ใช่แคบๆ ครับ โดยขนาดของทะเลสาบโอคานากันนั้นมีความยาวประมาณ 135 กิโลเมตร กว้างประมาณ 4-5 กิโลเมตร และส่วนที่ลึกที่สุดอยู่ที่ราว 230 เมตร
ด้วยขนาดอันใหญ่แบบนี้ การที่จะมีสัตว์ประหลาดหลบซ่อนอยู่ซักตัว ก็ไม่น่าจะแปลกละมังครับ สำหรับรูปร่างลักษณะของเจ้าสัตว์ตัวนี้ได้มีการบันทึกเอาไว้ว่า มีขนาดประมาณ 12-14 เมตร ผิวหนังสีดำ หัวเหมือนม้า ลำตัวยาวเหมือนงู มีหนอกและหางคล้ายกับม้า ดูจากรูปได้เลยครับ ซึ่งลักษณะแบบนี้ก็ดันคล้ายเข้ากับไดโนเสาร์พันธุ์ บาสิโลซอรัส (Basilosaurus) ชื่อของเจ้าโอโกโปโก มีความหมายว่า สัตว์ศักดิ์สิทธิ์แห่งสายน้ำ น่าเกรงขามกันเลยทีเดียวครับ.....ในปี ค.ศ.1959 ขณะที่คู่รักสองคู่กำลังขับเรืออยู่ในทะเลสาบ ได้ปรากฏร่างของสัตว์ประหลาดโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ ห่างจากทั้งคู่เพียงไม่กี่เมตร โดยเจ้าสัตว์ประหลาดนี้ได้จ้องมองเรืออยู่สักพักแล้วมันก็ดำน้ำลงไปอย่างเงียบๆ นับได้ว่าเป็นการพบโอโกโปโกแบบระยะใกล้ที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกเอาไว้ได้ ในปี ค.ศ.1964 ก็ได้ตีพิมพ์ภาพจาก เอริค พารามิเตอร์ (Eric Parameter) ซึ่งกล่าวว่าเป็นภาพของโอโกโปโกที่กำลังว่ายน้ำอยู่ และรายงานการพบเห็นก็ได้มีการตีพิมพ์ออกมาเรื่อยๆ นับได้หลายร้อยชิ้นจนกระทั่งปัจจุบันนี้นั่นแหละครับ
......โอโกโปโกมีอยู่จริงหรือไม่ นี่เป็นอีกปริศนาหนึ่งที่ปัจจุบันนี้เรายังไม่ได้รับคำตอบที่แน่ชัด ว่าสัตว์ประหลาดตัวนี้มีอยู่จริงหรือไม่ หรืออย่างน้อยก็ยังไม่มีผลพิสูจน์ที่ชัดเจนว่ามันไม่มีอยู่จริง นักวิทยาศาสตร์และนักวิชาการที่ได้ทำการศึกษาเรื่องนี้ ได้ให้คำตอบสำหรับเรื่องนี้ว่า บางทีโอโกโปโกนั้น อาจจะเป็นเพียงแค่ความผิดพลาดจากการมองเห็นสิ่งที่เคลื่อนไหวได้ในน้ำ ไม่ว่าจะเป็น ตัวบีเวอร์ ปลาสเตอร์เจี้ยน คลื่นทะเลสาบ ขอนไม้ หรือกระทั่งวัตถุบางชนิดที่ลอยมาตามน้ำ ซึ่งระยะทางจากการมองสิ่งเหล่านี้ อาจจจะทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นสัตว์ประหลาดกำลังว่ายน้ำอยู่ก็เป็นได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น