Ads by Adyim

วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

Funny Photo Click 9 - Movie Posters

      พบกันภาพน่ารัก ดูแล้วอมยิ้มกันอีกครั้งครับ มาถึงตอนที่ 9 กันแล้ว สำหรับตอนนี้มีชื่อว่า Movies Posters ครับ ก็เป็นโปสเตอร์ภาพยนตร์ที่แต่งด้วยโปรแกรมโฟโต้ช็อป ดูแล้วก็ทำได้เนียนดี ก็เช่นเคย ดูกันพอเพลินๆ พร้อมแล้วเชิญรับชมกันได้ครับ
Beauty and the Beast งานนี้เบลล์เจองานหนักหน่อยครับ

วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ฉลามตาเดียว (Albino Cyclops Shark)

      บทความนี้ขอนำเสนอสารคดีสัตว์โลกผู้น่ารัก ก็ว่าเข้าไปนั่นครับ เรื่องเล่าคราวนี้เป็นคิวเรื่องของฉลามครับ ไม่ใช่ฉลามธรรมดา แต่มันเป็นฉลามเผือกตาเดียวครับ น่าสนใจทีเดียวใช่มั๊ยละครับ ถ้าสนใจก็ติดตามอ่านกันได้เลยครับ

    ฉลามตาเดียว (Albino Cyclops Shark) นั้นถูกโพสภาพครั้งแรกลงในเฟซบุ๊ค (ทันสมัยซะด้วย) ของชมรมตกปลา Pisces Fleet Sportfishing Blog ครับ และไม่กี่เดือนต่อมา มันก็กลายเป็นฟอร์เวิร์ดเมลล์ส่งต่อกันไปเรื่อยในโลกไซเบอร์ในเวลาต่อมา ในตอนแรกก็ไม่มีใครใส่ใจ คิดกันว่ามันก็เป็นเพียงของปลอม เหมือนอย่างสัตว์ประหลาดสารพันชนิดที่ถูกส่งต่อมากันอย่างดาษดื่น ในรูปแบบของฟอร์เวิร์ดเมลล์ทั่วไป แต่คราวนี้เป็นอะไรที่แตกต่างออกไปครับ เมื่อสมาชิกคนหนึ่งของ เวบได้ออกมายืนยันว่า เจ้าฉลามเผือกตาเดียวตัวนี้เป็นของจริง!!
ดูแล้วเหมือนยักษ์ตาเดียวครับ

วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2554

โมอาย รูปสลักหินปริศนาบนเกาะอีสเตอร์ (Moai, Easter Island Statues)

     สวัสดีกันอีกครั้งครับ ช่วงนี้เหตุการณ์น้ำท่วมบ้านเราก็ยังคงอยู่ในช่วงที่ต้องเฝ้าระวังกันอยู่ ก็คงต้องมีสติ ตั้งอยู่ในความไม่ประมาทละนะครับ ก็ขอเอาใจช่วยผู้ที่ประสบภัยให้ผ่านเหตุการณ์นี้ไปให้ได้ด้วยดี เอาล่ะครับ มาเข้าเรื่องของบทความครั้งนี้ดีกว่าครับ อัพเดตคราวนี้ขออนุญาตพาทุกท่านไปไกลถึง เกาะอีสเตอร์ (Easter Island) กันเลยทีเดียว โดยที่เกาะนี้มีรูปสลักหินขนาดยักษ์ที่เรียกกันว่า “โมอาย (Moai)” อยู่ ครับ ถ้าอยากรู้เรื่องราวของโมอายว่าคืออะไร เป็นเพียงรูปสลักหินธรรมดาหรือสิ่งที่ชนเผ่าราปานุยสร้างขึ้นบูชาและปกป้อง พวกเขาจากภัยธรรมชาติ หรืออะไรก็แล้วแต่ ถ้าพร้อมแล้วก็เชิญติดตามอ่านกันได้เลยครับ
    
     โมอายเป็นหินภูเขาไฟขนาดใหญ่สลักเป็นรูปร่างคนบ้าง หน้าคนบ้าง ตั้งอยู่รายรอบไปทั่วบริเวณเกาะอีสเตอร์ในทะเลแปซิฟิคตะวันออกเฉียงใต้ เกาะอีสเตอร์นั้นอยู่ภายใต้การปกครองของประเทศชิลี มีขนาดพื้นที่ของเกาะกินอาณาบริเวณประมาณ 164 ตารางกิโลเมตร มีประชากรท้องถิ่นอาศัยอยู่ประมาณ 5,034 คน เป็นสถานที่ที่ว่ากันว่าที่นี่เป็นใจกลางของโลก บ้างก็ว่าเป็นสะดือของโลกไปนั่น โดยชื่อเกาะอีสเตอร์นั้นถูกตั้งขึ้นตามวันที่มีการค้นพบเกาะนี้ครับ ซึ่งเป็น วันอีสเตอร์ (Easter's Day) พอดีในปี ค.ศ.1722 โดยมาจากการค้นพบของนักสำรวจชาวฮอลแลนด์ เจค็อบ ร็อกเกวีน (Jacob Roggeveen) แรกเริ่มเดิมทีชื่อของเกาะอีสเตอร์นั้นถูกตั้งเป็นชื่อภาษาสเปนครับว่า isla de paschua หรือแปลว่าเกาะอีสเตอร์ในภาษาอังฤษนั่นเองครับ และในปัจจุบันทาง องค์กรยูเนสโก (UNESCO) ก็ได้ประกาศให้เกาะอีสเตอร์เป็นมรดกโลกอีกแห่งหนึ่งด้วยครับ

วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Funny Photo Click 8 - Feeding Crocs

      สำหรับ Funny Photo ชุดนี้ คงไม่ Funny เท่าไหร่ครับ ออกแนวน่าหวาดเสียวนิดๆ ซะมากกว่า ก็เป็นภาพชุดการให้อาหารแก่ จระเข้ยักษ์ อ้อ พวกนี้ส่วนใหญ่ไม่ใช่จระเข้เลี้ยงตามฟาร์มนะครับ เป็นจระเข้ธรรมชาติ แต่อาจจะพอคุ้นอยู่กับคนกับให้อาหารอยู่บ้าง แต่จระเข้พวกนี้ไม่เชื่องแน่นอนครับ ดูแล้วน่าหวาดเสียวไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว ถ้าพร้อมแล้วก็เชิญรับชมกันได้เลยครับ
ประเดิมด้วยภาพนี้ครับ

วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2554

บันยิพ : อสูรแห่งหนองน้ำ

     กลับมาอัพเดตกันอีกครับ แต่คราวนี้ขออนุญาตเอาบทความเก่าๆ ที่เคยทำไว้นานแล้วมาให้อ่านกันใหม่ ก็มีขัดเกลาตัดน้ำออกไปให้กระชับขึ้น พร้อมแล้วก็อ่านกันเลยครับ

*************

     พาไปรู้จักกับสัตว์ประหลาดกัน มาก็หลายชนิดหลายตัวแล้ว ข้อมูลมากบ้างน้อยบ้าง ก็อย่าว่ากันล่ะครับ พอดีวันนี้สบโอกาสพาไปทัวร์แถวออสเตรเลียกันดูบ้าง มาฟังเรื่องเล่าที่เป็นตำนานเกี่ยวกับเจ้าสัตว์ประหลาดที่มีชื่อเรียกกันว่า บันยิพ (Bunyip) กันดูบ้างครับ สำหรับเรื่องสัตว์ประหลาดหรือเจ้าตัวประหลาดนี้นั้นก็เป็นตำนาน เรื่องเล่าที่ยังคงกล่าวขานกันต่อมาจนถึงทุกวันนี้ ของชาวเผ่าพื้นเมืองของประเทศออสเตรเลีย หรือชนเผ่าอะบอริจินส์นั่นเองครับ โดยตามเรื่องตำนานของชาวอะบอริจินส์นั้นได้เล่ากล่าวเอาไว้ว่า บันยิพ เป็นจิตวิญญาณที่สิงสถิตอยู่ในแม่น้ำ ลำคลอง หนองบึง ทะเลสาบ หรือหากจะบอกว่าเป็นวิญญาณผู้เฝ้าผืนน้ำก็เห็นจะเป็นได้อยู่เหมือนกัน พอนานวันสะสมตบะแก่กล้ามากขึ้น บันยิพ เลยกลายรูปร่างเป็นสัตว์ประหลาด เป็นตัวเป็นตนขึ้นมาให้ผู้คนได้เห็นไปโน่นล่ะครับ 

วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2554

10 เกร็ดความรู้ที่น่าสนใจ

อัพเดตกันอีกบทความนะครับ คราวนี้มาดูเรื่องเบาๆ กันบ้าง ก็เป็นเรื่องราวทั่วๆ ใกล้ตัวเราทั่วไป เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย เอามาให้ดูกันพอเพลินๆ ว่าแล้วก็ติดตามอ่านกันได้เลยครับ

1. หลอดไฟฟ้า
คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า โธมัส อัลวา เอดิสัน (Thonas Alva Edison) นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะชาวอเมริกา ได้ทำการประดิษฐ์หลอดไฟฟ้า (Light bulb) ขึ้นเป็นคนแรก อันนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกันมานานครับ แต่แท้ที่จริงแล้ว ผู้ที่ประดิษฐ์หลอดไฟเป็นคนแรกนั้นก็คือ โจเซฟ สวอน (Joseph Swan) นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษครับ โดย โจเซฟ นั้นประดิษฐ์หลอดไฟเมื่อปี ค.ศ.1878 นั่นเองครับ

2. น้ำผึ้ง
น้ำผึ้งนั้นเป็นอาหารตามธรรมชาติชนิดเดียวครับ ที่ไม่เกิดการเน่าเสียเมื่อเก็บเอาไว้นานๆ โดยมีการพบโถใส่น้ำผึ้งที่มีอายุกว่าสองพันปี เก่าแก่มากที่สุด ซึ่งถูกค้นพบในสุสาน Yutu and Tjuyu ในหุบเขาแห่งกษัตริย์ ประเทศอียิปต์ เมื่อปี ค.ศ.1905 โดย ธีโอดอร์ เดวิส (Theodore davis) ชาวอเมริกา สภาพที่พบนั้น น้ำผึ้งนั้นยังมีลักษณะเป็นของเหลว และยังสามารถกินได้อยู่เลยครับ

3. ประชากรโลก
หากว่ากันด้วยเรื่องของจำนวนประชากรจำนวนทั้งหมดบนโลกนี้แล้ว ตอนนี้มีจำนวนอยู่เกือบเจ็ดพันล้านคน แต่อย่าคิดว่าจำนวนประชากรจะล้นโลกใบนี้นะครับ เชื่อมั๊ยครับ พื้นที่กว่า 700,000 ตารางกิโลเมตรของรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกานั้นสามารถรองรับประชากรโลกทั้งหมดได้ แต่ในส่วนของพื้นที่เท่านั้นนะครับ

วันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2554

วัตถุและแสงประหลาดบนดาวอังคาร

กลับมาอัพเดตกันอีกครั้งนะครับ หลังจากผ่านไปพอสมควรกับอัพเดตล่าสุด สำหรับเรื่องที่นำมาเสนอคราวนี้ ไปไกลกันถึงดาวอังคารทีเดียวครับ โดยยานอวกาศของนาซ่าสามารถจับภาพบางสิ่งมาได้ เป็นภาพที่น่าสนใจไม่ใช้น้อย เรามาติดตามกันครับ ว่าภาพมันเป็นยังไง ถ่ายติดอะไรมา แล้วทำไมถึงน่าสนใจ

วันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2554

R.I.P Steve Jobd (1955 - 2011)

ขอไว้อาลัยให้กับ สตีฟ จ็อบส์ อัจฉริยะผู้รังสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ อันน่าทึ่งหลายอย่าง ได้จากโลกนี้ไปเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2011

ที่ผ่านมาเป็นที่น่าเสียดายครับ ที่โลกนี้ได้เสียบุคคลากรอัจฉริยะไปอีกหนึ่งราย  ถึง สตีฟ จะจากไป แต่เขายังคงมีชีวิตอยู่ในใจแฟนๆ

ที่รักและศรัทธาเขา...ตลอดไป

R.I.P Steve.

วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2554

ยานอวกาศยักษ์ที่ดาวเสาร์ (Giant Spaceships at Saturn's Ring)

     สวัสดีครับ กลับมาอัพเดทบทความกันอีกครั้ง หลังจากห่างหายกันไปนานทีเดียว เรื่องเล่าคราวนี้เป็นเรื่องของจานบินหรือยูเอฟโอกันบ้างครับ หลังจากบทความประเภทนี้ไม่ได้นำมาลงนานแล้ว ว่าไปแล้วบทความเรื่องนี้ก็เป็นการเอาเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ ก็ว่าได้ครับ เพระมันเกิดขึ้นมาเมื่อ 10 กว่าปีมาแล้วครับ อาจจะพอเคยผ่านสายตากันมาบ้างแล้ว ก็อย่าว่ากันเน้อ 
     นับย้อนหลังไปเมื่อปี ค..1996 นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน ดร.นอร์แมน เบอร์กัน (Dr,Norman Bergun) ได้เผยภาพถ่ายดาวเสาร์ที่ได้มาจากนาซ่าจำนวนหนึ่ง ที่ไม่ธรรมดาของบรรดาภาพถ่ายเหล่านี้ก็คือ มีวัตถุลึกลับที่คาดกันว่า น่าจะเป็นยานอวกาศขนาดยักษ์ถูกถ่ายติดอยู่ในภาพดังกล่าวครับ จำนวน 2-3 ลำ สำหรับรูปทรงของวัตถุลึกลับนี้มีลักษณะเป็นทรงซิการ์ เรียวยาว ส่วนขนาดนั้นเมื่อคำนวณออกมาแล้ว ปรากฏว่ามันมีขนาดยาวประมาณเส้นผ่านศูนย์ของโลกเราเลยครับ ขนาดมหึมาเลยทีเดียว

วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2554

จระเข้ยักษ์ใหญ่จากฟิลิปปินส์ (Lolong, The Giant Croc from Phililppines)

     สวัสดีครับ ไม่ได้อัพเดตบทความกันมาค่อนข้างนานมาก พอดีดูข่าวน้ำท่วม เห็นประเทศใกล้ๆ กัน เขาจับจระเข้ขนาดมหึมา ขึ้นมาได้ ก็เลยได้เรื่องราวมาอัพเดตกันซักหน่อย สำหรับยักษ์ใหญ่เจ้าของสถิติจระเข้ใหญ่ที่สุดในโลกตอนนี้ !?! ถูกจับได้ที่เมืองบูนาวัน (Bunawan) ทางตอนใต้ของประเทศฟิลิปปินส์ (Southern Philippines) ซึ่งเป็นสถานที่ที่ถูกกล่าวขานกันถึงเรื่องจระเข้น้ำเค็มขนาดใหญ่กันอยู่แล้ว เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาครับ นับได้ว่าเป็นจระเข้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีการจับกันมาได้ครับ จระเข้ตัวนี้มีความยาวตลอดหัวถึงปลายหางประมาณ 24 ฟุต หรือประมาณ 6.4 เมตร น้ำหนักตัวกว่า 1 ตัน ทำลายสถิติ เจ้า "แคสเซียส เคลย์" จระเข้ที่จับได้จากเขตทางเหนือ (Northern Territory)  ของประเทศออสเตรเลีย  ขนาดตัวใหญ่ที่สุดในโลกจากประเทศออสเตรเลียด้วยขนาด 18 ฟุต หรือ 5.0 เมตร ไปอย่างสบายๆ เลยทีเดียวครับ (ว่างๆ จะมาเล่าเรื่องของเจ้าแคสเซียส เคลย์ให้ฟังครับ) แต่สถิติจระเข้าขนาดใหญ่ที่สุดในโลกตอนนี้ก็ยังไม่ได้มีการยอมรับกันอย่างเป็นทางการครับว่าเจ้า "โลลอง" (ชื่อของเจ้าจระเข้ยักษ์ตัวเมีย ตั้งเพื่อเป็นเกียรติตามชื่อของยอดพรานนักล่าจระเข้ของฟิลิปปินส์ ที่ชื่อ เออร์เนสโต โลลอง ที่เสียชีวิตไปแล้ว) เป็นจระเข้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในที่เลี้ยง ถ้ายังไม่ได้มีการตรวจสอบกันอย่างเป็นทางการ

เราลองมาดูรูปของเจ้าจระเข้ยักษ์ที่เขาจับได้กันดีกว่าครับ ว่ามันจะใหญ่โตซักขนาดไหน

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...