Ooparts Chapter 2 : Antikythera Machine

....มาตอนกันตอนที่ 2 ครับ สำหรับเรื่องราวของวัตถุเหนือกาลเวลาหรือ Ooparts นั่นเองครับ คราวนี้เรามารับชมเรื่องราวของเครื่องจักรกลแอนติคีเธร่า (Antikythera Machine) กันดู เจ้าเครื่องจักรกลที่ว่านี้นั้นถูกค้นพบเมื่อปี ค.ศ.1900 จากซากเรือขนสินค้าที่อัปปางก้นทะเล ทางเหนือของเกาะแอนติคีเธร่า (Antikythera Island) ใกล้กับเกาะครีต (Crete Island) ประเทศกรีก ซึ่งตั้งชื่อเจ้าเครื่องจักรกลนี้ตามสถานที่ค้นพบในภายหลัง ผู้ที่พบก็คือชาวกรีก อีเลียส สตาดิแอทอส (Elias Stadiatos) ครับ มีการประมาณการณ์กันว่าเจ้าเครื่องจักรกลนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อประมาณ 150 ปีก่อนคริสต์กาล ตอนที่มีการค้นพบก็ไม่มีใครสนใจครับ ว่าเศษซากของเจ้าเครื่องจักรพิศวงอันนี้มีคุณค่าอย่างไร เพราะว่าสมบัติที่จมอยู่กับซากเรืออัปปางจมนั้นดูมีค่ากว่า เศษซากของเฟืองเกียร์ชิ้นเล็ก ชิ้นน้อยนับสิบชิ้น กระจัดกระจายอยู่เป็นเพียงส่วนที่มีการเก็บกู้ขึ้นมาด้วยเท่านั้น จนกระทั่งมีผู้สนใจและนำมันไปศึกษาในภายหลังจาก ถึงรู้ครับว่าเจ้าเครื่องกลชิ้นนี้มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์เพียงใด
ซึ่งก็พบว่า รูปแบบกลไกการทำงานมันช่างคล้ายกับวงจรของนาฬิกาในยุคปัจจุบันนี่เสียเหลือเกินครับ และได้ข้อสรุปที่ดูน่าเป็นไปได้ที่สุดสำหรับเจ้าเครื่องจักรกลนี้ ก็คือมันน่าจะถูกสร้างขึ้นเพื่อนำมาใช้งานการคำนวณทางด้านดาราศาสตร์สำหรับนักเดินเรือนั่นเองครับ และว่ากันว่ามันอาจจะเป็นเครื่องจักรกลคอมพิวเตอร์เครื่องแรกของโลกที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดเท่าที่มีการค้นพบมาเลยทีเดียวครับ .....กลไกการทำงานของเจ้าเครื่องจักรกลนี้นั้นค่อนข้างที่จะซับซ้อนครับ เพราะประกอบไปด้วยฟันเฟืองหรือเกียร์ขนาดต่างๆ กว่า 70 ชิ้น โดยจะมีข้อต่ออยู่ 3 อัน คือที่ข้างหน้าและด้านข้างอีก 2 อัน เพื่อหมุนกำหนดวันที่และเวลา และตามจักรราศี โดยใช้ตามปฏิทินของกรีกโบราณ ผลที่ได้ก็คือมันสามารถที่จะบอก เวลาการเคลื่อนที่ของดวงดาว น้ำขึ้นและน้ำลงได้ครับ โดยอ้างอิงจากตำแหน่งการโคจรของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ ซึ่งแม่นยำค่อนข้างมากครับ โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนเพียง 1 วันต่อ 4 ปีเท่านั้น นับเป็นความแม่นยำที่น่าสนใจดีทีเดียวครับ สำหรับความรู้ทางด้านเทคโนโลยีของคนสมัยก่อน .....ที่น่าพิศวงอีกอย่างก็คือ กว่าที่จะมีการคิดค้นใช้งานปฏิทินที่แม่นยำขนาดนี้ได้ ก็เมื่อ 46 ปีก่อนคริสตกาลนี่เองครับ หลายปีหลังจากเจ้าเครื่องจักรกลชิ้นนี้เป็นกอง ดูจากแบบจำลองการทำงานของเจ้าเครื่องจักรกลแอนติคีเธร่านี้แล้ว บรรดานักวิทยาศาสตร์ที่ได้ทำการทดลองหลายคนได้ยืนยันตรงกันครับว่า ผู้ใดก็ตามที่ได้ทำการออกแบบเครื่องจักรพิศวงชิ้นนี้ จะต้องมีความรู้ทางด้านทฤษฎีวิศวกรรมเครื่องกล คณิตศาสตร์ และดาราศาสตร์อย่างดีเยี่ยมครับ จึงจะนำมาประยุกต์ใช้งานร่วมกันจนออกมาเป็นเครื่องจักรกลชิ้นนี้ขึ้น.....ได้มีการตั้งข้อสมมติฐานของผู้สร้างเจ้าเครื่องจักรกลชิ้นนี้ว่าอาจจะเป็น โพไซโดเนียส (Posidonius) ปราชญ์และนักดาราศาสตร์ชาวกรีก ซึ่งยุคที่โพไซโดเนียสมีชีวิตอยู่นั่น มีความเจริญทางด้านการดูดาวและดาราศาสตร์เป็นอย่างมาก รวมไปถึงการคิดค้นประดิษฐ์อุปกรณ์เครื่องกลอีกด้วยครับ และผู้ที่ออกแบบก็อาจจะเป็นนักดาราศาสตร์ชาวกรีก ฮิพพาร์คัส (Hipparchus) ก็เป็นได้ เพราะจากตรวจสอบแล้วพบว่า เครื่องกลแอนติคีเธร่านี้ใช้กลไกการทำงานตามการเคลื่อนที่แบบดวงจันทร์ซึ่งสอดคล้องการทฤษฏีของฮิพพาร์คัสว่าด้วยการเคลื่อนที่ของดวงจันทร์เองอีกด้วย
.....ได้มีการสร้างแบบจำลองการทำงานของมันโดยนักวิทยาศาสตร์ประวัติศาสตร์ เดเร็ค เดอ ซอลล่า ไพรซ์ (Derek de Solla Price) ซึ่งใช้เวลากว่าสิบปีในการศึกษาและประกอบเครื่องจักรนี้ขึ้นมาใหม่ให้สมบูรณ์ที่สุด นอกจาก เดเร็ค แล้ว ผู้ที่ทำการศึกษาเจ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้ก็มีอีกหลายท่านครับ ดังเช่น ศาสตราจารย์ไมเคิล เอ็ดมันด์ (Michael Edmunds) จากมหาวิทยาลัยคาร์ดิฟที่ได้เคยทำการตรวจสอบเจ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้ ถึงกับกล่าวเอาไว้ว่า เครื่องจักรกลชิ้นนี้ถูกสร้างมาอย่างยอดเยี่ยม มีการทำงานเที่ยงตรงและสวยงาม และทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์มากกว่าภาพวาดของโมนาลิซ่าเสียอีกครับ นอกจากนั้นยังมีนักวิทยาการคอมพิวเตอร์ อลัน บรอมลีย์ (Allan Bromley) และศาสตราจารย์ทางด้านวิศวกรรมเครื่องกล ไมเคิล ไรท์ (Michael Wright) จากพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ลอนดอน ที่ใช้เทคนิคทางด้านการเอ็กซ์เรย์เศษซากของเครื่องจักรกลแอนติคีเธร่าและสร้างมันขึ้นมาใหม่โดยมีความแม่นยำมากกว่าที่ เดเร็ค เคยสร้างขึ้นมาอีกด้วยครับ รายงานการตีพิมพ์ล่าสุดที่เกี่ยวกับเครื่องจักรแอนติคีเธร่า เมื่อปี ค.ศ.2008 นี้เอง ได้รายงานเอาไว้ว่านักปราชญ์กรีก อาร์คีมีดิส (Archimedes) อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ชิ้นนี้ด้วยในส่วนการออกแบบทางด้านจักรกลครับ เพราะมีความคล้ายคลึงกันกับอุปกรณ์บางชนิดที่อาร์คีมิดิสได้เคยประดิษฐ์เอาไว้ .....ปัจจุบันแบบจำลองของเครื่องจักรกลแอนติคีเธร่านี้ได้ถูกจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์โบราณคดีแห่งชาติกรุงเอเธนส์ นอกจากนี้แล้วก็ยังมีการสร้างแบบจำลองขึ้นมาไว้ที่พิพิธภัณฑ์อีกหลายแห่ง เช่นที่ พิพิธภัณฑ์คอมพิวเตอร์อเมริกัน พิพิธภัณฑ์แมนฮัตตัน และพิพิธภัณฑ์แคสเซล ประเทศเยอรมันครับ นับเป็นอีกหนึ่งวัตถุปริศนาที่ยังคงท้าทายการค้นพบใหม่แก่บรรดานักวิทยาศาสตร์รุ่นหลังต่อไปได้อีกไม่รู้จบครับ สำหรับเครื่องจักรกลพิศวงแอนติคีเธร่า อย่าลืมติดตามตอนต่อไปของซีรีย์สเรื่องยาว Ooparts นะครับ จะยังคงมีมาให้รับชมกันอีกเรื่อยๆ