Ads by Adyim

วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

นักท่องกาลเวลา (Time Traveller found in 1940s)


     สวัสดีกันอีกครั้งครับ กลับมาอัพเดตกันอีกครั้ง หลังจากหายไปค่อนข้างนาน ตอนแรกก็กะจะเอาเรื่องวัตถุลึกลับบนดวงจันทร์มาอัพเดต แต่เปลี่ยนใจนำเรื่องนี้มาลงแทนครับ เป็นเรื่องที่สนใจทีเดียว เกี่ยวกับ นักท่องกาลเวลา (Time Traveler) หรือก็คือบุคคลที่สามารถเดินทางไปในกระแสแห่งกาลเวลา ในแต่ละยุคสมัยได้ โดยอาจจะใช้อุปกรณ์เครื่องย้อนเวลา (Time Machine) หรือพลังงานอะไรบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการท่องเที่ยวธรรมดา หรือจุดประสงค์อย่างอื่นก็ตาม พวกนี้คือนักท่องกาลเวลาครับ เราลองมาติดตามกันครับว่าเรื่องราวมันเป็นมายังไง

     ย้อนหลังกลับไปเมื่อปี ค.ศ.2004 ทาง พิพิธภัณฑ์แคนาดา (Canadian Museum) ได้นำรูปเก่ามีอายุหลายสิบปีออกมาจัดนิทรรศการโชว์แบบออนไลน์ (Online Exhibit) โดยใช้ชื่อนิทรรศการนี้ว่า “Their past lives here” หรือ “อดีตพวกเขายังมีชีวิตอยู่ที่นี่” ส่วนใหญ่ก็เป็นรูปเก่าๆ เล่าถึงความหลังในแต่ละสถานการณ์ แต่ละสถานที่ แต่กลับมีรูปนึงครับ ที่ดูเหมือนว่าจะมีความพิเศษกว่าใบอื่นๆ รูปใบนี้ตามข้อมูลบอกว่าถ่ายขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1940 ครับ เป็นรูปที่บันทึกเหตุการณ์การเปิดใช้งานอีกครั้งของ สะพานเซาท์ ฟอร์ค (South Fork Bridge) ที่ประเทศแคนาดา เมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.1940 เนื่องจากโดนน้ำท่วมเสียหายไปก่อนหน้านั้น เราลองมาดูรูปทางด้านล่างนี้ซิครับ เห็นความผิดปกติอะไรตรงไหนในภาพหรือเปล่า ?
เห็นอะไรผิดปกติบ้างหรือเปล่าครับ ??

    เราลองดูที่ผู้ชายทางด้านขวามือครับ หากมองผ่านๆ ก็คงไม่มีอะไรดูแปลก แต่เมื่อลองขยายภาพให้ใหญ่ขึ้น และสังเกตให้ดีเราจะเห็นว่ามีชายหนุ่มอยู่คนหนึ่งที่แต่งกายไม่เหมือนกับชาวบ้านเลย ไม่ว่าเป็นเรื่องของการใส่แว่นกันแดด ที่ดูรูปทรงทันสมัยไม่แตกต่างจากแว่นตากันแดดที่มีอยู่ในปัจจุบันเลยทีเดียว

ซูมกันเข้าไปใกล้อีกนิด
ประกอบกับเสื้อผ้าที่ใส่เสื้อยืดลายสกรีนและสวมทับด้วยเสื้อนอก ไม่เหมือนบรรดาผู้ที่อยู่ในรูป ซึ่งส่วนใหญ่จะแต่งกายด้วยชุดสูทหรือไม่ก็แต่งกายแบบสุภาพ เมื่อต้องมางานที่เป็นทางการ และรวมไปถึงกล้องถ่ายรูปเขาถืออยู่ ก็ดูทันสมัยเสียเหลือเกินครับ ด้วยสิ่งเหล่านี้ มันชวนให้เราคิดว่า ชายหนุ่มคนนี้ไม่ได้เป็นอะไรที่กลมกลืนกับคนอื่นที่มาชมงานนี้เอาเสียเลย เราลองมาพิจารณากันทีละเรื่องครับ

     ประการแรก แว่นกันแดด จากบรรดาผู้คนที่ปรากฏอยู่ในรูปถ่ายใบนี้ อาจจะเป็นความบังเอิญก็ได้ครับ แต่ดันมีเจ้าหนุ่มคนนี้ใส่แว่นกันแดดอยู่คนเดียว (มั๊ง?) ทั้งที่ภาพนี้น่าจะถ่ายกลางแดดจัด (ลองสังเกตจากแสงเงาครับ) แต่ทำไมไม่มีใครใส่แว่นกันแดดอย่างชายหนุ่มคนนี้เลยซักคน และคำถามที่ตามมาก็คือ ในสมัยนั้น ค.ศ.1940 มีแว่นกันแดดแล้วยังงั้นหรือ ?? คำตอบก็คือ มีการวางจำหน่ายแว่นตากันแดดตั้งแต่ปี ค.ศ.1929 นู้นแล้วครับ และแบบแว่นตากันแดดแบบโพลาไรซ์ (แบบที่เจ้าหมอนี่ใส่อยู่) ก็ได้เริ่มพัฒนาและผลิตได้เมื่อปี ค.ศ.1936 ก็นับว่ายังอยู่ในข่ายครับ (ในรูปถ่าย ค.ศ.1940) แต่ก็ยังมีข้อขัดแย้งตามมาอีกว่า ถึงจะมีแว่นตาแบบนี้ออกมาแล้วก็จริง แต่ก็ยังไม่เป็นที่นิยมใส่กัน และก็ยังเป็นแว่นตากันแดดแบบชนิดเลนส์ใหญ่ สีไม่เข้มมากนัก ไม่ใช่กรอบแว่นทันสมัยอย่างที่เจ้าหนุ่มคนนี้ใส่อยู่

     ประการที่สอง เสื้อยืดแบบมีโลโก้  บรรดาพวกผู้ชายส่วนใหญ่เท่าที่เห็นในภาพใบนี้นั้น ดูเหมือนพวกเขาจะใส่สูทกันแทบทุกคนครับ (เท่าที่พอจะมองเห็นในภาพนี้นะครับ) นัยนึงก็คงเพราะต้องมาชมพิธีงานสำคัญของการเปิดสะพานเซาท์ ฟอร์ค ขึ้นใหม่อีกครั้ง หลังจากที่สะพานเสียหายอันเนื่องมาจากน้ำท่วม เลยมีการเปิดสะพานอย่างเป็นทางการ ก็เลยต้องแต่งตัวให้ดีหน่อย ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติของชาวตะวันตกอยู่แล้วครับ ที่นิยมใส่สูทไปในงานที่สำคัญๆ อะไรแบบนี้ แต่เจ้าหนุ่มคนนี้กลับใส่เสื้อยืดมีลายสกรีนโลโก้ตัวอักษร ดูแล้วน่าจะเป็นตัว M ซึ่งอาจจะเป็นตัวย่อของอะไรบางอย่างมาซะอย่างงั้น หากย้อนเวลากลับไปช่วงนั้น เสื้อยืดสกรีนลายหรือปั๊มลายนั้น ยังไม่เป็นที่นิยมในสมัยนั้นครับ เสื้อยืดลายถักหรือลายปักก็เป็นที่นิยมใส่กันมากกว่า เช่นพวกเสื้อหนาวจำพวกสเวตเตอร์ที่ปักลายตัวอักษรซะมากกว่าครับ

รูปแบบของแว่นกันแดด (บางส่วน) ที่มีขายกันในปี ค.ศ.1940
     และประการสุดท้าย กล้องถ่ายรูปแบบพกพา ลองมาดูภาพของเจ้ากล้องตัวนี้ในรูปขยายกันครับ ถึงแม้จะไม่ชัดเจนขนาดเห็นยี่ห้อ แต่ด้วยทรงเลนส์ขนาดใหญ่ และตัวบอดี้ของกล้อง ก็พอจะบอกได้ว่า เหมือนกล้องถ่ายรูปสมัยใหม่ที่เรียกกันว่ากล้อง DSLR เลยทีเดียว แล้วในยุคนั้นมีกล้องถ่ายรูปที่คล้ายกับกล้องแบบนี้อยู่เปล่า เราลองมาดูตัวอย่างของกล้องในสมัยปี ค.ศ.1940 กันครับว่าคล้ายกันหรือเปล่า
ดูกล้องที่ชายคนนี้มีอยู่ครับ

ภาพบางส่วนของกล้องที่ถูกผลิตขึ้นในช่วงปี 1940 เป็นต้นมาครับ
     ก็ยังคงมีคำถามตามต่อมาอีกครับว่า หากชายหนุ่มคนนี้เป็นนักท่องกาลเวลาจริงละก็ อะไรทำให้เขาสนใจการเปิดสะพานเล็กๆ ในเมืองเล็กๆ อย่างนี้ อะไรที่ทำให้เขาคิดว่าคุ้มค่าที่จะต้องเดินทางฝ่ากาลเวลามาดู หรือกระทั่งคุ้มค่าที่พอที่เขาจะบันทึกภาพเอาไว้เสียด้วยซ้ำ ท้ายที่สุดแล้วบทสรุปนั้นก็ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันระหว่างฝ่ายที่เชื่อกับฝ่ายที่ไม่เชื่อ และต่างก็หาหลักฐานมาหักล้างกันได้อย่างน่าสนใจ

     ข้อสงสัยทั้งสามประการนั้น ก็อาจเรียกได้ว่ามีคำถามและมีคำตอบอยู่ในตัวมันเองอยู่แล้ว แต่จะตอบถูกทั้งหมดหรือไม่นั้น ก็คงต้องหาข้อพิสูจน์กันต่อไปครับ นักท่องกาลเวลาจะมีจริงหรือ พวกเขาสามารถเดินทางไปมาย้อนอดีตกลับอนาคตได้จริงหรือ ไทม์ แมชชีนเป็นสิ่งที่สามารถสร้างได้จริงหรือไม่ ในเมื่อมันขัดกันกับหลักทฤษฎีฟิสิกส์แบบฟ้ากับเหวขนาดนั้น คำตอบที่ว่านักท่องกาลเวลานั้นมีอยู่จริงหรือไม่นั้นก็ อยู่ที่ตัวคุณจะตัดสินใจเชื่อครับ ก็เป็นเรื่องสั้นๆ ครับ เจอกันครั้งใหม่บทความหน้าครับ


Credits :

1. http://boingboing.net/2010/04/16/time-traveler-caught-1.html
2. http://gizmodo.com/5519660/time-traveler-captured-in-museum-photograph
3. http://www.disinfo.com/2010/04/time-traveler-caught-in-1940-photo/

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ของแบบนี้ เราว่ามี :D

แสดงความคิดเห็น

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...