วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ไดลอฟโฟซอรัส (Dilophosaurus)

     อัพเดตกันอีกซักครั้งครับ ก่อนที่จะสิ้นปี พ.ศ.2554 นี้ นับว่าเป็นปีที่เผชิญกับมหันภัยอุทกภัยกัน สำหรับหลายๆ ท่าน แต่เมื่อผ่านไปแล้วก็ขอให้มันผ่านไปครับ เริ่มต้นสู้กันใหม่ สำหรับบทความครั้งนี้ ย้อนกันมาอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับไดโนเสาร์กันบ้างครับ เจ้าตัวนี้ก็เป็นที่รู้จักกันดีเมื่อครั้งภาพยนตร์จูราสสิค พาร์คเข้าฉายครับ เจ้านี่มีชื่อว่า ไดลอฟโฟซอรัส (Pilophosaurus) ครับ

    
คิดว่าหลายๆ ท่าน คงยังไม่ลืมภาพยนตร์เรื่อง จูราสสิค พาร์ค ที่เคยเข้ามาฉายเมื่อหลายสิบปีก่อน หรือกระทั่งในตอนนี้ เคเบิลบางช่องก็ยังนำกลับมาฉายอยู่เรื่อยๆ แม้แต่แผ่น CD DVD ทั้ง หลายรูปแบบก็ยังมีมาวางจำหน่ายอยู่เป็นระยะๆ บางท่านดูซ้ำไปซ้ำมาเป็น 10-20 รอบ ซึ่งผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ ทั้งฉากอันตระการตา กราฟฟิกไดโนเสาร์ที่ดูราวกับมีชีวิตจริง เนื้อเรื่องผจญภัยอันน่าตื่นเต้น ไดโนเสาร์ตัวไหนที่มีโอกาสได้โผล่ออกจอล่ะก็ มันจะถูกจดจำไปอย่างไม่ลืมเลยทีเดียวครับ ไม่ว่าจะเป็น ไทรเซราท็อปส์ ทีเร็กซ์ แบรคคิโอซอรัส แร็พเตอร์
ขนาดของไดลอฟโฟซอรัสเมื่อเทียบกับคน
หรือแม้กระทั่งเจ้าไดลอโฟซอรัส ไดโนเสาร์ตัวจิ๋ว ที่โผล่ออกมาเล่นงาน เดนนิส เน็ดดรี่ โปรแกรมเมอร์ร่างอ้วนตัวแสบแบบเซอร์ไพรซ์เองก็ตามที สำหรับไดลอฟโฟซอรัสข้อมูลตรงนี้มีความคลาดเคลื่อนอยู่ครับ เหมือนกับที่ได้เคยนำเสนอเรื่องของเจ้า แร็พเตอร์ ไปแล้วในบทความก่อน ติดตามอ่านได้จาก ที่นี่ เลยครับ ว่าเวอร์ชั่นที่มีการค้นพบกับเวอร์ชั่นที่นำเสนอในหนังนั้นมีความแตกต่างกันอยู่ไม่น้อย

ไดลอฟแบบมีแผงคอนี้มีเฉพาะในหนังครับ
     ในภาพยนตร์เรื่องจูราสสิค พาร์ค นั้น เราจะเห็นเจ้าไดลอฟโฟซอรัส เป็นไดโนเสาร์ขนาดเล็ก ตัวโตไม่ใหญ่ไปกว่าไก่ตัวใหญ่ๆ ตัวนึงเท่านั้นเองครับ (ในตรงนี้ผู้กำกับ สตีเว่น สปีลเบิร์ก ได้ทำการปรับเปลี่ยนขนาดของเจ้าไดลอฟลงนิดหน่อยครับ โดยแกเรงว่าคนจะจำเจ้านี่สับสนกับแร็พเตอร์ได้น่ะครับ หากให้มันตัวเท่ากัน โดยทำการลดขนาดตัวของไดลอฟให้เล็กลง และเพิ่มแผงคอเข้าไป และให้มันสามารถพ่นพิษได้เหมือนงูเห่า) ดูภายนอกไม่เป็นพิษเป็นภัย ขี้เล่น ส่งเสียงทำท่าทางน่ารัก หากแต่เมื่อมันเข้าโหมดล่าเหยื่อแล้วละก็ มันจะสยายแผงคอ และส่งเสียงขู่เหยื่อ พร้อมกับพ่นน้ำลายพิษเหนียวเหนอะไปที่ลูกตาของเหยื่อ เพื่อทำให้เหยื่อตตาบอดและเพื่อปิดทางหนี จากนั้นก็ขย้ำเหยื่อด้วยเขี้ยวคนแหลมเล็กเต็มปาก นี่คือสิ่งที่ภาพยนตร์นำเสนอให้เราชมกันครับ ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่เราเห็นจากหนังนั้นนับว่าคลาดเคลื่อนออกไปมิใช่น้อยทีเดียวครับ      เราลองมาดูข้อมูล ของเจ้าไดโนเสาร์ตัวนี้ดูครับ ไดลอฟโฟซอรัส เป็นไดโนเสาร์ชนิดกินเนื้อ (Theropod) เดินด้วยสองขาหลังหางยาว มีชีวิตอาศัยอยู่ในช่วงก่อนยุคจูราสสิค พาร์ค หรือเมื่อประมาณ 193 ล้านปีมาแล้วครับ ถูกค้นพบเป็นครั้งแรกที่ มลรัฐอริโซน่า ประเทศอเมริกาเมื่อปี ค.ศ.1940 โดย เจสซี่ วิลเลี่ยม (Jesse Williams) แต่ก็ได้แค่กระดูกบางส่วน ยังค้นพบไม่สมบูรณ์ และอีก 2 ปีถัดมา ค.ศ. 1942 เจมส์ เวลส์ (James Welles) ก็ได้ขุดค้นพบฟอสซิลทั้งตัวของเจ้าไดลอฟ และต่อมาในปี ค.ศ.1952 ได้นำเสนอเข้าวงการวิชาการ แต่กลับถูกจัดเข้าลำดับชั้นวงศ์และตั้งชื่อได้ก็เกือบ 10 ปีให้หลังจากการค้นพบ สำหรับรูปร่างของไดลอฟนั้น มันมีความยาวตลอดลำตัวเฉลี่ยประมาณ 6 เมตร น้ำหนักตัวนั้นหนักกว่าครึ่งตันครับ มีฟันแหลมคมยาวเรียว รูปร่างกะโหลกแบนยาวคล้ายจระเข้ และมีหงอนอยู่ทั้งสองข้างบนหัว และแน่นอนครับว่ามันไม่มีแผงคอหรือพ่นพิษได้อย่างในหนัง
ครั้งหนึ่งเมื่อมันเคยโรมรันอยู่บนโลกใบนี้
ในปัจจุบันนี้ก็ยังมีการศึกษาวิจัยเรื่องการดำรงชีวิตและรวมไปถึง เรื่องหงอนบนหัวของมันด้วยครับ ว่ามันมีเอาไวเพื่อใช้ประโยชน์อะไร ซึ่งบางทฤษฎีก็นำเสนอว่ามันมีประโยชน์บางอย่างในการหายใจ หรือไม่ก็เอาไว้ใช้เพื่อควบคุมอุณหภูมิในร่างกาย เนื่องถิ่นที่อยู่ของมันในโลกสมัยก่อนก็ยังเป็นทะเลทราย ที่มีน้ำอยู่น้อยเหมือนกับในปัจจุบันนั่นเอง สำหรับอาหารการกินของเจ้าไดลอฟ มีการตั้งสมมติฐานว่าเจ้าไดโนเสาร์ชนิดนี้อาจจะกินซากสัตว์เป็นอาหารหลัก ซึ่งมาจากการศึกษาการเรียงตัวของฟันแล้วพบว่า ฟันและขากรรไกรของมันมีขนาดเล็กและไม่แข็งแรงพอที่จะล่าเหยื่อที่มีขนาดใหญ่ได้ หรือไม่ก็อาจจะจับสัตว์ขนาดเล็กกว่ากินเป็นอาหาร บางทฤษฎีก็ว่าพวกมันอยู่รวมและล่ากันเป็นฝูงครับ เนื่องด้วยข้อมูลของเจ้าไดลอฟโฟซอรัสยังนับว่ามีน้อยมาก เมื่อเทียบกับเพื่อนไดโนเสาร์ตัวอื่นๆ ที่มีการค้นพบมาแล้ว รวมไปถึงการจัดอันดับว่าจะให้มันอยู่ในส่วนใดถึงจะเหมาะสม ก็ยังต้องใช้เวลารวบรวมข้อมูลกันอีกนานครับ สำหรับไดโนเสาร์ชนิดนี้
      สำหรับบทความนี้ก็สั้นๆ ครับ พอได้รู้อะไรเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย ยังไงปีใหม่ 2555 ที่จะมาถึงนี้ ขอให้ทุกท่านมีความสุขตลอดปี สุขภาพแข็งแรงครับ


Credits :

1. http://en.wikipedia.org/wiki/Dilophosaurus
2. http://www.dinosaurfact.net/jurassic/Dilophosaurus.php

3. http://www.dinohunters.com/History/Dilophosaurus.htm
4. http://www.interesting.vaty.net/2006/10/dilophosaurus.html
5. google.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น